ในยุคที่มลภาวะในอากาศกำลังเป็นปัญหาทั่วโลก การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมสำหรับบ้าน หรือสำนักงานของคุณเป็นสิ่งที่จำเป็น วันนี้ทีมงาน pandabanana เลยขอมาเปรียบเทียบเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi ทั้ง 3 รุ่นให้ทุกคนอ่านกัน ว่ามีคุณสมบัติและประสิทธิภาพที่แตกต่างกันยังไงบ้าง เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi ที่ตรงกับความต้องการและพื้นที่ห้องของคุณ
Xiaomi Mi Air Purifier 4 Lite
- CADR: 380 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง
- พื้นที่ครอบคลุม: 26 – 45 ตารางเมตร
- จัดการกับฝุ่น PM2.5, ควันบุหรี่, เกสรดอกไม้, กลิ่นไม่พึงประสงค์
- กรองสารฟอร์มาลดีไฮด์ได้สูงสุด 120 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง
- หน้าจอ LED แสดงค่าปริมาณฝุ่น, อุณหภูมิ, ความชื้น
- เสียงทำงาน: 35.8 – 60 dB
- ฟังก์ชันเชื่อมต่อกับแอป Mi Home
Xiaomi Smart Air Purifier 4 Pro
- CADR (อนุภาค): 500 m³/ชม, CADR (ฟอร์มาลดีไฮด์): 185 ลบ.ม./ชม
- พื้นที่ครอบคลุมที่มีประสิทธิภาพ: 35-60 ตร.ม.
- ตัวกรองสามในหนึ่งเดียว
- จอแสดงผล OLED
- เสียงรบกวนต่ำที่ 33.7dB(A)
- อายุการใช้งานตัวกรอง: 6-12 เดือน
- เซ็นเซอร์ PM2.5/PM10 และไอออนไนซ์ในอากาศเชิงลบ
Xiaomi Smart Air Purifier 4 Compact
- Particles CADR: 230 m³/h
- พื้นที่ครอบคลุม: 16-27m²
- อายุการใช้งานตัวกรอง: 6-12 เดือน
- เสียงทำงาน: Lp: 18.3-47.4 dB(A), Lw: 29.8-58.9 dB(A)
- รองรับ Wi-Fi 2.4 GHz
- ขนาดเล็กกะทัดรัด: 220 × 220 × 355 mm
สรุปผลจากการเปรียบเทียบ
- Xiaomi Mi Air Purifier 4 Lite เหมาะสำหรับห้องขนาดปานกลาง และมีฟีเจอร์ที่ครอบคลุมความต้องการหลัก ๆ
- Xiaomi Smart Air Purifier 4 Pro เหมาะกับพื้นที่ที่กว้างขวางกว่า มาพร้อมฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น จอ OLED และความสามารถในการกรองที่เพิ่มมากขึ้น
- Xiaomi Smart Air Purifier 4 Compact ออกแบบมาเพื่อพื้นที่เล็ก ๆ ไม่ใหญ่มาก เช่น ห้องนอน โดยเน้นความกะทัดรัด และความเงียบในการทำงานเป็นหลัก ที่สำคัญราคาถูกสุดในบรรดาทั้ง 3 รุ่นที่กล่าวมาเลยค่ะ
